วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เจาะใจเถ้าแก่ใหม่ คุณณัฐนนท์ โตชยามานนท์ เจ้าของร้าน "ลิตเติ้ลดั๊ก”

"หัวใจสำคัญที่ทำให้สามารถขายอาหารคุณภาพดี ในราคาที่ไม่แพงและมีกำไร

คือ การควบคุมค่าใช้จ่าย การบริหารต้นทุนอย่างเคร่งครัดและเป็นระบบ "

สวัสดีค่ะ วันนี้เจ๊กัญขาเม้าท์แห่ง Blog เถ้าแก่บางกอก ( TownCare Bangkok) มีเรื่องเล่าความสำเร็จจากหลักสูตรการทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ โดยเจ้าของความสำเร็จในคราวนี้ คือคุณณัฐนนท์ โตชยามานนท์ เจ้าของร้าน “ลิตเติ้ลดั๊ก” หนึ่งในเถ้าแก่ใหม่ในแวดวง เถ้าแก่บางกอกของพวกเรา
ก่อนหน้าที่จะมาเปิดร้าน คุณณัฐนนท์หรือพี่แอ๊ด เล่าให้ฟังว่า มีอาชีพขายอาหารอยู่ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่มีความตั้งใจที่อยากจะเปิดร้านอาหารของตัวเอง โดยมองทำเลย่านถนนรามอินทราไว้ เพราะเป็นแหล่งชุมชน ที่มีทั้ง บริษัท ห้างร้านและที่พักอาศัย อยู่ค่อนข้างหนาแน่น และที่สำคัญอยู่ใกล้กับบ้านพักของตนเองพี่แอ๊ดยังเล่าต่อให้ฟังว่าตอนนั้นสนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์ “ร้านลิตเติ้ลดั๊ก” เพราะติดใจรสชาติของเป็ดย่าง และอยากจะหาความรู้เกี่ยวกับการเปิดร้านอาหาร ซึ่งพอได้รับทราบข่าวว่าทาง ISMED เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าอบรมหลักสูตรอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ก็เลยตัดสินใจมาสมัครโดยมาในวันสุดท้ายพอดี และก็โชคดีที่ผ่านการสัมภาษณ์และได้รับคัดเลือกเข้าอบรม ซึ่งในช่วงท้ายของการอบรมก็ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ “ร้านลิตเติ้ลดั๊ก” เพื่อเปิดร้านโดยเซ้งอาคารพาณิชย์ 1 คูหาในซอยรามอินทรา 52/1 ข้างโรงพยาบาลสินแพทย์ และเริ่มเปิดขายเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2552 ที่ผ่านมา โดยมี พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันบริหาร โดยอาหารจานหลักของร้านเป็นอาหารจานเดียว เช่น ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เป็ดย่าง ข้าวหมูแดง บะหมี่หมูแดง และตอนนี้ได้เพิ่มเป็ดตุ๋นและเป็ดพะโล้ เข้ามาเสริมทัพอีกด้วย นอกเหนือจากจานเด็ดที่ว่ามา พี่แอ๊ดยังเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจว่า ยังมีอีกเมนูเด็ดอร่อยที่ได้มาจากการอบรม ก็คือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “น้ำสมุนไพรดอกอัญชัญ” ที่ถือเป็นเครื่องดื่มไฮไลท์ของทางร้าน โดยวัตถุดิบที่ใช้ก็คือดอกอัญชัญอบแห้งที่คัดสรรมาจากร้านโครงการหลวงนำมาทำตามสูตรที่ได้ร่ำเรียนมา แถมได้เคล็ดลับจากอาจารย์มาอีกว่าเวลาเสิร์ฟจะมาพร้อมกับมะนาวผ่าซีกชิ้นเล็กๆ ให้ลูกค้าบีบซึ่งนอกจากจะเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นแล้วยังเปลี่ยนสีน้ำเงินเข้มของน้ำให้กลายเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงใส ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะกับลูกค้าตัวน้อยๆ ที่มากับคุณพ่อคุณแม่นอกจากนี้ พี่แอ๊ดยังย้ำกับเจ๊กัญขาเม้าท์มาอีกว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้สามารถขายอาหารคุณภาพดี ในราคาที่ไม่แพงและมีกำไรพอที่จะแข่งกับร้านดังๆ ในห้างได้ก็คือ สิ่งที่อาจารย์ย้ำนักย้ำหนาในการอบรมเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย การบริหารต้นทุนอย่างเคร่งครัดและเป็นระบบ โดยพี่แอ๊ดยกตัวอย่างให้ฟังว่า ถึงแม้จะเป็นกิจการที่ทำร่วมกันระหว่างพี่ๆ น้องๆ แต่ก็ต้องตั้งค่าจ้างให้กับทุกคน ซึ่งก็รวมถึงตัวของพี่แอ๊ดเองด้วย นอกจากนั้นถ้ามีการสั่งอาหารกินในร้าน พี่ๆ น้องๆ ก็ต้องจ่ายค่าอาหารด้วย ทำให้สามารถคำนวณ ต้นทุน รายได้ ที่แท้จริงได้ถูกต้อง ใครจะเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้พี่แอ๊ดยินดีไม่มีค่าลิขสิทธิ์ แถมพี่แอ๊ดยังอวดให้ฟังอีกว่าเมื่อต้นเดือน เมษายน ที่ผ่านมา“ร้านลิตเติ้ลดั๊ก” ถูกเชิญไปออกร้านในงานกาชาดและได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ และที่สำคัญก่อนจากกันในวันนั้นได้แอบกระซิบให้ฟังว่ามีผู้ใหญ่ที่นับถือกันมาชักชวนเพื่อจะร่วมลงทุนขยายกิจการเพิ่มอีกสาขาหนึ่ง โดยเล็งทำเลย่านลาดพร้าวไว้ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดร้านได้ภายในปี 2553 อย่างแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับเรื่องเล่าความสำเร็จ ของพี่แอ๊ดกับร้านลิตเติ้ลดั๊ก เจ๊กัญขาเม้าท์หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับ ว่าที่เถ้าแก่บางกอกท่านอื่นๆ ที่กำลังค้นหาเส้นทางของการมีกิจการเป็นของตัวเอง อันที่จริงเจ๊กัญยังมีเรื่องเล่าของชาวเถ้าแก่บางกอกอีกหลายท่านที่วันนี้ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งจะทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ถ้าเพื่อนๆ ท่านใดมีข่าวดีแบบเดียวกับพี่แอ็ดและเจ๊กัญยังไม่มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์ก็ส่งข่าวมาบอกกันด้วยนะค่ะ หรือถึงแม้ว่ายังไม่มีข่าวดีแต่มีแผนอยากจะเปิดกิจการหรืออยากได้รับความช่วยเหลือในการเปิดกิจการไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ติดต่อมาหาเจ๊กัญได้นะค่ะ เรื่องอย่างนี้เจ๊กัญและพันธมิตรยินดีจัดให้ค่ะ
หมายเหตุ สนใจติดต่อกับ คุณณัฐนนท์ โตชยามานนท์ หรือพี่แอ๊ด เจ้าของ “ร้านลิตเติ้ลดั๊ก” ได้ที่เบอร์โทร 081-8254546

กลับสู่หน้าหลัก

1 ความคิดเห็น: